ภาพประกอบ: Shhhh
กว่าห้าปีแล้วที่ รามี อัดแฮม (Rami Adham) ชายผู้วางตุ๊กตาไว้บนบ่า เดินทางข้ามพรมแดนจากประเทศฟินแลนด์สู่ซีเรีย ด้วยระยะทางกว่า 3,000 ไมล์ เพื่อส่งมอบตุ๊กตาเหล่านั้นให้กับเด็กๆ ในพื้นที่สงครามที่เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ปี 2011
เขาเกิดในเมืองอะเลปโป (Aleppo) ประเทศซีเรีย แต่ใช้ชีวิตอยู่ที่ฟินแลนด์ตั้งแต่ปี 1989 ปัจจุบันอัดแฮมอายุ 44 ปี จุดเริ่มต้นของเรื่องคือ เขาอยากเป็นส่วนหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือเด็กๆ ที่ต้องพลัดพรากกับพ่อแม่และชีวิตวัยเด็กที่ควรจะสดสวยงดงาม และไม่ใช่เพียงการบริจาคเงินเข้ากองทุน หรือส่งสารพัดของจำเป็นไปที่หน่วยงานใกล้บ้าน เขาตั้งปณิธานไว้ว่า เขาจะต้องเดินทางไปมอบมันด้วยตัวเอง
“เด็กๆ ชาวซีเรียต้องพบเจอกับความตายของผู้คนซ้ำแล้วซ้ำเล่า ความไม่มั่นคงปลอดภัย และการคุกคามต่างๆ เชื่อไหมว่า…ของเล่นกลายเป็นสิ่งของจำเป็น มันช่วยบำบัดจิตใจพวกเขาได้” อัดแฮมให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว Telegraph
ครั้งแรก กล่องบรรจุสินค้าของเขามีเพียงเสบียงอาหาร ยา ข้าวของที่คิดว่าจำเป็นในการใช้ชีวิตของเด็กๆ และเงินเก็บจำนวน 5,500 ดอลลาร์
เมื่อลูกสาวหนึ่งในหกคนของเขาเดินเข้ามาสะกิดแล้วบอกว่า เธอมีตุ๊กตาที่ไม่เล่นอีกแล้วจำนวนหนึ่ง และเธอจะขอส่งต่อเพื่อนเก่าของเธอ ให้กับเพื่อนๆ ผู้อยู่ในที่ห่างไกล
“ครั้งที่ผมยื่นเงินให้เด็กๆ เขามองมันด้วยสายตาว่างเปล่า และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับมัน หากพอผมหยิบเจ้าตุ๊กตาพวกนี้ออกมา ตาของพวกเขาเป็นประกาย ผมรู้ทันทีเลยว่า เขามีเรื่องราวและวิธีการเป็นร้อยเป็นพันเพื่อจะเล่นกับพวกมัน”
จากวันนั้นถึงวันนี้ เขาเดินทางเข้าออกพื้นที่สงครามนับได้กว่า 28 ครั้ง ในรอบห้าปี
สิงหาคมที่ผ่านมา อัดแฮมเปิดระดมทุนในชื่อโครงการ Go Fund Me เพื่อนำเงินที่ได้ไปสร้างโรงเรียนให้กับเด็กๆ ที่ได้รับผลกระทบจากสงครามในซีเรีย โดยโรงเรียนดังกล่าวจะตั้งอยู่ไม่ห่างกับพรมแดนประเทศตุรกี แต่ไกลจากเขตพื้นที่การโจมตีทางอากาศและพื้นที่สงครามในซีเรีย โดยขณะนี้ Go Fund Me มีผู้ร่วมบริจาคผ่านกองทุนนี้กว่า 40,000 ยูโรแล้ว