ครบรอบ 130 ปี วันสังหาร ซิตติง บุล ผู้นำชนพื้นเมืองอเมริกันชาติพันธุ์ ซู (Sioux)

15 ธันวาคม 2020 — ครบรอบ 130 ปี วันสังหาร ซิตติง บุล ผู้นำชนพื้นเมืองอเมริกัน ชาติพันธุ์ ซู (Sioux) ผู้มีชื่อเสียง

หลังจากหลายปีแห่งการต่อต้านความพยายามของชนผิวขาวที่จะทำลายล้างตัวเขาและชาวซูให้ได้สำเร็จ ผู้นำทางจิตวิญญาณศักดิ์สิทธิ์และหัวหน้ากลุ่มชาวเผ่าซูผู้ยิ่งใหญ่ ซิตติง บุล ถูกสังหารโหดไปในเหตุการณ์พยายามจับกุมโดยตำรวจอินเดียนที่เขตสงวน Standing Rock ในมลรัฐเซาธ์ดาโกตา เมื่อ 15 ธันวาคม 1890

ซิตติง บุล ระหว่างเข้าร่วมกับ Wild West Show ปี 1885

ซิตติง บุล (Sitting Bull หรือ Tatanka Iyotake) เป็นชาวอเมริกันพื้นเมืองที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 19 เป็นศัตรูระดับนำของชาวอเมริกันผิวขาวมาตั้งแต่ยังเด็ก เขาเชื่อว่าการติดต่อเกี่ยวข้องกับคนที่ไม่ใช่พื้นเมืองอินเดียนอย่างแน่นแฟ้นจะทำลายความแข็งแกร่งและอัตลักษณ์ของชาติพันธุ์ซู และจะนำไปสู่ความเสื่อมถอยในที่สุด

แต่กลยุทธ์ของ ซิตติง บุล โดยทั่วไปเป็นการป้องกันมากกว่าใช้ความก้าวร้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาโตขึ้นและกลายเป็นผู้นำกลุ่ม โดยพื้นฐาน ซิตติง บุล และบริวารชนเผ่าปรารถนาที่จะถูกปล่อยให้อยู่ตามลำพังเพื่อดำเนินชีวิตตามวิถีดั้งเดิม แต่ผู้ตั้งถิ่นฐานผิวขาวมีแต่ความสนใจและกระหายเข้ายึดครองดินแดนของชาวเผ่าเพิ่มมากขึ้น และผลจากการบีบคั้นชาวพื้นเมืองอินเดียนให้อยู่ในเขตที่ควบคุมโดยรัฐบาลนำไปสู่ความขัดแย้ง การปฏิเสธไม่ทำตามคำสั่งให้นำคนของเขาไปยังเขตสงวนนำไปสู่การสู้รบในสมรภูมิ ลิตเติล บิกฮอร์น (Little Bighorn) อันโด่งดัง ซึ่งนักรบอินเดียน ชาวซูกับไชยแอนน์ย่อยสลายกำลังพลส่วนหนึ่งแห่งกรมทหารม้าที่ 5 ภายใต้การนำของ นายพันโทจอร์จ อาร์มสตรอง คัสเตอร์ (George Armstrong Custer) ลงจนหมดสิ้น

ข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับมรณกรรมของ ซิตติง บุล
ข่าวหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับมรณกรรมของ ซิตติง บุล

หลังจากสมรภูมิ ลิตเติล บิกฮอร์น หัวหน้า ซิตติง บุล พาลูกน้องหนีไปอยู่แคนาดาเป็นเวลา 4 ปี ต้องเผชิญกับความอดอยาก ในที่สุดเขากลับมายอมจำนน และได้รับมอบหมายให้เข้าอยู่ในพื้นที่ Standing Rock แห่งรัฐเซาธ์ดาโกตา เขายังคงรักษาอำนาจบารมีไว้ได้แม้สำนักงานกิจการอินเดียนพยายามบ่อนทำลายอิทธิพลของเขา และเมื่อขบวนการฟื้นฟูจิตวิญญาณที่เรียกว่า การเต้นปีศาจ (Ghost Dance) แพร่ขยายไปในหมู่ชาวซู เจ้าหน้าที่คนขาวเกรงว่าอาจนำไปสู่การลุกฮือของชาวอินเดียน และเชื่อว่า ซิตติง บุล ออกแรงผลักดันอยู่เบื้องหลังความเชื่อเรื่องเต้นปีศาจนี้ ตัวแทนจึงส่งตำรวจอินเดียนไปจับกุมหัวหน้าที่กระท่อมริมแม่น้ำแกรนด์

ตำรวจอินเดียนพยายามเข้าจับกุม ซิตติง บุล แต่ฝูงชนมารวมตัวกันแล้วนักรบหนุ่มหัวร้อนสองสามคนชักอาวุธออกข่มขู่ตำรวจอินเดียน คนหนึ่งยิงปืนใส่ตำรวจอินเดียนนายหนึ่ง พวกนั้นตอบโต้ด้วยการยิงซิตติงที่หน้าอกและศีรษะ หัวหน้าใหญ่ถูกสังหารทันที ก่อนที่การดวลปืนจะสิ้นสุดลงมีอินเดียนอีก 12 คนเสียชีวิตและบาดเจ็บอีก 3 คน

การไปรษณีย์สหรัฐออกแสตมป์ ซิตติง บุล ในชุด The Great Americans ปี 1989

ศพของชายผู้ต่อต้านการรุกล้ำของคนผิวขาวและวัฒนธรรมของพวกเขามาเกือบสามทศวรรษถูกฝังอยู่ในมุมห่างไกลของสุสานที่ ป้อมเยตส์ (Fort Yates) อีก 2 สัปดาห์ต่อมาทหารของกองทัพสหรัฐก็ได้ลงมือปราบปรามขบวนการเต้นปีศาจลงอย่างไร้ความปรานีด้วยการสังหารหมู่กลุ่มชาวพื้นเมืองซูซึ่งประกอบด้วยชายผู้ไร้อาวุธ คนชรา ผู้หญิง และเด็กน้อย กว่า 300 คน ลงอย่างเหี้ยมโหด ที่บริเวณใกล้กับลำธาร วูนเด็ด นี (Wounded Knee)

ทางการอเมริกันในตอนนั้นพยายามขนานนามเหตุการณ์ว่าเป็นสมรภูมิรบครั้งสุดท้ายในสงครามอินเดียน (Indian Wars) อันยาวนานของสหรัฐอเมริกา แต่นักประวัติศาสตร์จำนวนหนึ่งแย้งว่า นั่นเป็นการสังหารหมู่ (massacre) มากกว่าเป็นการสู้รบในสมรภูมิ

Author

ไพรัช แสนสวัสดิ์
ทำงานหนังสือพิมพ์รายวันฉบับภาษาอังกฤษมาทั้งชีวิต มีความสนใจในระดับหมกมุ่นหลายเรื่อง อาทิ ประวัติศาสตร์ วรรณคดี การเมือง สังคม วัฒนธรรม ศิลปะ จักรยาน ฯลฯ ช่วงทศวรรษ 2520 มีงานแปลทะลักออกมาหลายเล่ม หนึ่งในนั้นคือ Bury my heart at Wounded Knee หรือ ฝังหัวใจข้าไว้ที่วูนเด็ดนี
ปัจจุบันเกษียณตัวเองออกมาทำงานแปลอย่างเต็มตัว แต่ไม่รังเกียจที่จะแปลและเขียนบทวิเคราะห์ข่าวต่างประเทศ หากเป็นประเด็นที่คิดว่ามีประโยชน์ต่อชาวโลก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า