แปลและเรียบเรียง : ณัฐกานต์ อมาตยกุล
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาแถลงว่าระเบิดสองลูกที่ใช้จู่โจมในการแข่งขัน บอสตันมาราธอนเมื่อวันจันทร์อันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 176 รายนั้น เป็น ‘ระเบิดทำมือ’ ประกอบจากหม้ออบความดันโลหะ ตะปู ตลับลูกปืนเม็ดกลม เศษโลหะ ยัดไว้ในกระเป๋า ใกล้ ๆ กับเส้นชัย ซึ่งระเบิดดังกล่าวคล้ายกับการวางระเบิดริมถนนเพื่อโจมตีกองทหารสหรัฐใน อิรักและอัฟกานิสถาน
และเมื่อมองย้อนกลับไปในรอบ 20 ปีที่ผ่านมา ‘ระเบิดทำมือ’ เหล่านี้ เกิดขึ้นถี่เหลือเกิน
……………….
นับตั้งแต่ ทิโมธี แมคเวห์ (Timothy McVeigh) ใช้ระเบิดรถบรรทุกประกอบเองซึ่งทำจากปุ๋ยปริมาณสองตัน เชื้อเพลิงรถยนต์ และเชื้อปะทุระเบิด เข้าทำลายอาคารสำนักงานของรัฐบาลกลางในเมืองโอกลาโฮมา ในปี 1995 และคร่าชีวิตไป167 คน จากนั้นมาก็มีการเหตุการณ์ระเบิดโดยผู้ก่อการร้ายทั้งในประเทศและต่างประเทศมาอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการส่งข้อความบางอย่าง
การระเบิดที่ตามมาเหล่านี้แตกต่างจากเหตุระเบิดในโอกลาโฮมาที่ก่อการโดยผู้เคลื่อนไหวฝ่ายขวาหัวรุนแรง และยังไม่นับรวมการกราดยิงรุนแรงในสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นตามมาอยู่เรื่อย ๆ
ซึ่งเหตุก่อการร้ายที่ใช้ระเบิดนอกเหนือจากที่กล่าวมา นับตั้งแต่ปี 1995 มีดังต่อไปนี้
• 17 มกราคม 2011 เควิน ฮาฟาม (Kevin Harpham) ชายผู้เหยียดผิว ได้เดินถือเป้บรรจุระเบิดไปกับกลุ่มเดินขบวนในวันมาร์ติน ลูเธอร์ คิง ในเมืองสโปเคน รัฐวอชิงตัน แต่ถูกตรวจค้นได้และระงับการทำงาน ระเบิดดังกล่าวเป็นระเบิดท่อ (pipe bomb) บรรจุตุ้มถ่วงใช้ในการตกปลาเคลือบด้วยยาเบื่อหนู ซึ่งจะทำให้เกิดลิ่มเลือดในบาดแผลสด ฮาฟามได้รับโทษจำคุก 32 ปี
• 1 พฤษภาคม 2010 ตามการรายงานของ ABC-TV ไฟซาล ชาห์ซัด (Faisal ShahZad) ผู้อพยพชาวปากีสถาน ได้จอดรถ SUV บรรทุกระเบิดเอาไว้บริเวณไทม์สแควร์ในนิวยอร์ก ควันพวยพุ่งออกมาจากตัวรถ จึงมีการตรวจค้นจนเจอวัตถุระเบิดและกู้เอาไว้ได้ รถคันดังกล่าวได้บรรจุปุ๋ยปริมาณมากกว่า 100 ปอนด์ แต่เป็นปุ๋ยชนิดที่ไม่เกิดการระเบิด รายงานจากแหล่งอื่นระบุว่าไฟซาลบรรจุปุ๋ยเอาไว้ในหม้ออบความดันเหมือนกับระเบิดในบอสตัน และใช้ประทัดเป็นตัวจุดระเบิด เขาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้บนเครื่องบินและได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
• 25 ธันวาคม 2009 ชายชาวไนจีเรียน อูมาร์ ฟารุค อับดุลมูตัลลับ พยายามจะใช้ระเบิดพลาสติกที่ซ่อนไว้ในกางเกงชั้นในทำลายเครื่องบินระหว่างเที่ยวเดินทางจากปารีสไปดีทรอยท์ แต่ถูกผู้โดยสารและพนักงานเครื่องบินขัดขวางทำการรวบตัวเอาไว้ และได้รับโทษจำคุกตลอดชีวิต
• 11 กันยายน 2001 เครื่องบินพาณิชย์แบบไอพ่น 4 ลำถูกยึดโดยกลุ่มทหารอัลเคด้า 19 นาย และใช้เป็นระเบิดพลีชีพ โจมตีตึกแฝดเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ในนครนิวยอร์ก ตึกเพนทากอน และอีกลำตกที่รัฐเพนซิลเวเนียระหว่างมุ่งหน้าไปวอชิงตัน มีผู้เสียชีวิตราว ๆ 3,000 คนจากเหตุการณ์ดังกล่าว
• 22 มกราคม 1998 ธีโอดอร์ คาซินสกี้ (Theodore Kaczynski)หรือที่รู้จักในนาม อูนาบอมเบอร์ (Unabomber”: Universities and Airlines) ถูกตัดสินโดยศาลระดับประเทศให้รับโทศจำคุกตลอดชีวิต เนื่องจากการก่อการระเบิด 16 ครั้งนับตั้งแต่ปี 1978 จนถึง 1995 มีผู้เสียชีวิต 3 คน และบาเจ็บอีก 23 คน ในการระเบิดครั้งแรกนั้น เขาใช้ดินระเบิดไร้ควัน แต่ในการก่อการครั้งถัดๆ มา เป็นการใช้ระเบิดบรรจุตะปูและเศษวัสดุซึ่งค่อนข้างซับซ้อน ใส่ไว้ในบรรจุภัณฑ์ไม้ที่ออกแบบให้จุดระเบิดเมื่อผู้รับพัสดุเปิดออกมาโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์
• กรกฎาคม 1996 ถึง มกราคม 1998 อีริค รูดอล์ฟ (Eric Rudolph) ผู้เคลื่อนไหวต่อต้านการทำแท้งได้ก่อเหตุระเบิดถึงสี่ครั้งระหว่างปี 1996-1998 โดยใช้ระเบิดทำมือในรูปแบบแตกต่างกันไป ตามรายงานของ HistoryCommons.org ได้ระบุว่า ในเหตุการณ์ระเบิดที่เซ็นทรัลพาร์ก รูดอล์ฟได้วางกระเป๋าสนามของทหารสหรัฐซึ่งภายในบรรจุระเบิดท่อสามชิ้นรายล้อมไปด้วยตะปูน้ำหนัก 5 ปอนด์ซึ่งทำหน้าที่เป็นกระสุน ไว้ใต้ม้านั่งใกล้กับฐานของเสาลำโพง จากนั้นจึงหลบหนีไป ระเบิดดังกล่าวซึ่งมีน้ำหนัก 40 ปอนด์ถือได้ว่าเป็นระเบิดท่อที่ขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสหรัฐและสามารถทำลายล้างได้มากกว่านี้ แต่ด้วยความผิดพลาดบางอย่างทำให้มันไม่ทำงานเต็มประสิทธิภาพ เจ้าหน้าที่เอฟบีไอถึงกับเผยว่ามันเป็นความบังเอิญอย่างมากที่ระเบิดนี้ไม่ได้คร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย
นอกจากนี้ ในวันที่ 20 มกราคม 1998 รูดอล์ฟวางระเบิดที่คลินิกทำแท้งในเบอร์มิงแฮม รัฐอลาบามา ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิตและนางพยาบาลบาดเจ็บ ในวันที่ 16 มกราคม 1997 เขาวางระเบิดสองลูกข้างคลินิกทำแท้งบริเวณชานเมืองแอตแลนตา ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 6 ราย ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 1997 เขาวางระเบิดที่ด้านนอกของบาร์เลสเบี้ยนแห่งหนึ่งในแอตแลนตา มีผู้บาดเจ็บ 5 ราย และในวันที่ 27 กรกฎาคม 1996 เขาก็ระเบิดงานซัมเมอร์โอลิมปิกส์ มีผู้เสียชีวิต 2 รายและบาดเจ็บมากกว่า 100 ราย ในที่สุดเขาก็ถูกจับกุมเมื่อปี 2003 และรับโทษจำคุกตลอดชีวิต
ตามรายงานของนิวยอร์กไทมส์ รูดอล์ฟใช้ระเบิดที่แตกต่างกันไปในการก่อเหตุแต่ละครั้ง ในเหตุการณ์ที่สนามโอลิมปิค เขาใช้ดินกระสุนไร้ควันติดตรายี่ห้อ Accurate ส่วนในการระเบิดอาคารและบาร์นั้นเขาใช้ระเบิดที่ประกอบด้วยแท่งไดนาไมต์ แต่ในการระเบิดทั้งสามครั้งต่างก็ใช้นาฬิกาปลุกแบบมีเข็ม ยี่ห้อเวสต์คลอกซ์ รุ่นเบบี้เบนในการตั้งเวลา
• 19 เมษายน 1995 ทิโมธี แม็คเวห์ ใช้รถบรรทุกบรรจุปุ๋ยแอมโมเนียไนเตรตและเชื้อเพลิงไนโตรมีเทนก่อเหตุระเบิดบริเวณอาคารสำนักงานของรัฐบาลกลางในเมืองโอกลาโฮมาโดยใช้เชื้อปะทุระเบิดในการจุดระเบิด มีผู้เสียชีวิต 168 คน บาดเจ็บกว่า 500 คน ซึ่งการโจมตีครั้งนี้ถือว่าร้ายแรงที่สุดของสหรัฐในรอบ 75 ปี มีเพียงเหตุการณ์ 9/11 ในปี 2011 เท่านั้นที่มีความรุนแรงมากกว่า ผู้ก่อเหตุได้ถูกประหารชีวิตในปี 2001 ส่วนเทอร์รี่ นิโคลส์ (Terry Nichols) ผู้สมรู้ร่วมคิดถูกจำคุกตลอดชีวิต
********************************
(ที่มา : alternet.org)