โบสถ์ในเวเนซูเอลา กำลังประสบปัญหาขาดแคลนทั้งไวน์และข้าวสาลีที่ใช้ในการผลิตขนมปังสำหรับพิธีศีลมหาสนิท เนื่องจากภาวะการขาดแคลนอาหารและนโยบายจำกัดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ
การลดลงของไวน์ มีสาเหตุจากการขาดแคลนของวัตถุดิบสำคัญที่ต้องนำเข้า ทำให้ผู้ผลิตไวน์หยุดขายสินค้าให้แก่โบสถ์ ซึ่งสาเหตุนั้นเกี่ยวเนื่องมาจากนโยบายดั้งเดิมของนายฮูโก ชาเวซ อดีตประธานาธิบดีผู้ล่วงลับ ซึ่งจำกัดการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเพื่อป้องกันอัตราการไหลของเงินตราสู่นอกประเทศ อีกทั้งยังมีการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศทำให้กำลังซื้อสินค้าจากต่างประเทศลดลงกว่าเดิม
มอนซิเออร์ ลัคเคอร์ โฆษกประจำโบสถ์ เผยว่าขณะนี้โบสถ์มีไวน์ใช้เพียงพอแค่ 2 เดือนเท่านั้น เช่นเดียวกับกลุ่มผู้ผลิตขนมปังกรอบ ที่ตกอยู่ในสภาวะ ‘ของขาด’ เช่นเดียวกัน โดยกลุ่มผู้ผลิตขนมปังขอเพิ่มราคาสินค้าเพราะไม่สามารถจัดหาแป้งได้พอเพียง ซึ่งข้าวสาลีที่ใช้นั้นไม่สามารถปลูกได้ในเวเนซูเอลา ต้องนำเข้าทั้งหมด
ลัคเคอร์ได้อธิบายถึงราคาที่เพิ่มสูงขึ้นของขนมปังสำหรับทำพิธีต่อหนึ่งชุด จากเดิมราคาอยู่ที่ 50 โบลิวาร์หรือประมาณ 8 ดอลลาร์สหรัฐแต่ในปัจจุบันราคาได้ถีบตัวสูงขึ้นถึง 100 โบลิวาร์ หรือราวๆ 16 ดอลลาร์
ไม่ใช่แค่ไวน์กับขนมปังเท่านั้นที่ขาดแคลน ยังมีนม น้ำตาล น้ำมันสำหรับปรุงอาหาร แป้ง แป้งข้าวโพด ซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการปรุงอาหารของชาวเวเนซูเอลา รวมไปถึงสินค้าที่ใช้ทำความสะอาดต่างๆ
พูดง่ายๆ ว่าสินค้าตั้งแต่ห้องครัวไปจนถึงห้องน้ำเข้าสู่ภาวะวิกฤติ อย่างไรก็ตามรัฐบาลของประธานาธิบดีนิโกลัส มาดูโร ทายาททางการเมืองของฮูโก ชาเวซ ก็ยังยืนยันนโยบายและอ้างว่านี่เป็นแผนทำลายรัฐบาลของพรรคฝ่ายค้านและราคาสินค้าก็ล้วนอ้างเกินจริง
*****************************
(ที่มา: globalpost.com, caribbean360.com)