Breaking The Cycle: อำนาจ ศรัทธา อนาคต
บันทึกการเมืองเรื่องความหวัง เมื่อไพร่หมื่นล้านอาสาทลายวงจรอุบาทว์การเมืองไทย

Breaking The Cycle อำนาจ ศรัทธา อนาคต ภาพยนตร์สารคดีการเมืองไทยเชิงพาณิชย์เรื่องแรกของไทย โดย 2 ผู้กำกับหน้าใหม่ ‘เอก’ เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ และ ‘สนุ๊ก’ ธนกฤต ดวงมณีพร เปิดฉายรอบปฐมทัศน์เป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา ที่โรงภาพยนตร์ SF เซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมวงเสวนาพูดคุยหลังภาพยนตร์จบกับ 2 ผู้กำกับและ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ‘ไพร่หมื่นล้าน’ อดีตหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นตัวละครหลักของสารคดีชุดนี้ที่อาสามาทำงานการเมือง ก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ พยายามเข้าไปทำลายวงจรอุบาทว์การเมืองไทยที่มักวนกลับมาสู่จุดเริ่มต้น นั่นคือ ‘การรัฐประหาร’ เสมอ และดูเหมือนว่ามันจะยังคงกลับมาซํ้ารอยเดิม

ภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้พาย้อนความทรงจำทางการเมืองของคนไทยกลับไป 1 ทศวรรษที่สาบสูญ (The Lost Decade) โดยผู้กำกับทั้งสองได้เกาะติดพรรคอนาคตใหม่ในทุกช่วงเวลา เพื่อบันทึกหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย นับตั้งแต่การก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ในช่วงปี 2561 นอกจากธนาธรในฐานะตัวละครหลักแล้ว ยังมี ‘ป๊อก’ ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ‘ช่อ’ พรรณิการ์ วานิช อดีตโฆษกพรรคอนาคตใหม่ รวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ที่เรียกตัวเองว่า ‘ฟ้ารักพ่อ’ และนักวิชาการด้านรัฐศาสตร์และประวัติศาสตร์ 

ภาพยนตร์พาย้อนกลับไปที่ห้วงสุดท้ายของวิกฤตการณ์การเมืองไทยในปี 2557 การชุมนุมของกลุ่ม กปปส. ที่ยืดเยื้อยาวนาน จบลงด้วยการรัฐประหารในปี 2557 ของ คสช. ภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ตบเท้าเข้ามาแก้ไขวิกฤตการณ์ การรัฐประหารในครั้งนั้นมีทั้งผู้ให้การสนับสนุนและผู้ต่อต้านที่ออกมาเดินขบวน ทำให้คนจำนวนหนึ่งถูกจับกุมดำเนินคดีภายใต้กฎอัยการศึก 

การสืบทอดอำนาจของ คสช. ดำเนินต่อมาถึงการร่างรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ได้รับการขนานนามว่า ‘รัฐธรรมนูญฉบับสืบทอดอำนาจ’ โดยมีการออกแบบกลไกทางการเมืองที่สอดรับต่อการสืบทอดอำนาจของ คสช. อาทิ บทเฉพาะกาล 5 ปี ผ่าน สว. 250 คน ความซับซ้อนของสูตรคำณวน สส. บัญชีรายชื่อ การแทรกแซงองค์กรอิสระเพื่อกำจัดศัตรูทางการเมือง และการรณรงค์ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญถูกกีดกันขัดขวาง ทำให้หลายคนถูกดำเนินคดี และรัฐธรรมนูญปี 2560 ยังคงส่งผลเสียทางการเมืองเรื่อยมาถึงปัจจุบัน 

เริ่มจากความหวัง…ความเป็นจริง…พวกเขาอ่อนหัดทางการเมือง?

ปฏิเสธไม่ได้ว่า พรรคอนาคตใหม่กำเนิดเกิดก่อภายใต้รัฐธรรมนูญปี 2560 ที่มีกลไกอันบิดเบี้ยว แต่เมื่อไม่มีทางที่ดีที่สุดในการต่อสู้กับความบิดเบี้ยวนี้ ธนาธร นักธุรกิจหมื่นล้านจึงอาสาเข้ามาทำงานการเมือง โดยเริ่มจากคนกลุ่มเล็กๆ และเริ่มขยายใหญ่ขึ้นทีละน้อยก่อนก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ในปี 2561

การเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ในสนามการเมืองไทย มีสมาชิกเพียงเล็กน้อยในช่วงเริ่มต้น นำพาให้ผู้กำกับทั้ง 2 คน รู้สึกสนใจในพรรคการเมืองนี้ และขอติดตามแกนนำพรรคอย่างธนาธรไปทุกที่ ทำให้ได้เห็นภาพพัฒนาการของพรรคจากที่ไม่มีใครรู้จัก เดินแนะนำตัวตามท้องถนนภายใต้ข้อจำกัดทางการเมืองในยุค คสช. ใช้พื้นที่ของสื่อโซเชียลมีเดียซึ่งเป็นพื้นที่ของคนรุ่นใหม่ สื่อสารให้เห็นว่าธนาธรคือใครและจะทำอะไร จนกระทั่งคีย์เมสเซจของพรรคออกมาในฐานะผู้จุดประกาย ‘ความหวัง’ ให้คนหลากหลายรุ่น ไม่เพียงแค่คนรุ่นใหม่ แต่ยังรวมถึงคนรุ่นเก่าที่รักประชาธิปไตย เพื่อที่จะต่อสู้ ตัดวงจรรัฐประหาร สร้างสังคมที่ก้าวหน้า เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของโลก รวบรวมกลุ่มคนต่างๆ เข้ามาอยู่ในพรรค เช่น ผู้มีความหลากหลายทางเพศ ผู้พิการ กลุ่มชาติพันธุ์ แรงงาน เป็นต้น เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันสร้างสังคมไทยที่หลายคนถวิลหาในยุคสมัยใหม่ 

ความหวังนี้ ก่อให้เกิดกระแสความสนใจในพรรคการเมืองหน้าใหม่ จนสามารถกวาดที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรได้ 80 ที่นั่ง มาเป็นลำดับที่ 3 ในการเลือกตั้งครั้งแรกของพรรคในการเลือกตั้ง 24 มีนาคม 2562 ที่พวกเขากำชัยได้ไม่นาน ความเป็นจริงทางการเมืองจึงปรากฏขึ้นอย่างชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล 

2 ผู้กำกับยังได้บันทึกบทสนทนาตอนหนึ่งภายในรถตู้ ในระหว่างการจัดตั้งรัฐบาลในปี 2562 ถึงความกังวลใจของธนาธร เกี่ยวกับพรรคการเมือง 2 พรรคที่เป็นคีย์สำคัญว่า ฝ่ายประชาธิปไตยจะสามารถตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ หาก 2 พรรคนี้ไปร่วมกับพรรคลุงจะเกิดอะไรขึ้น มันคือ ‘Realpolitik’ ที่เต็มไปด้วยเสือสิงห์กระทิงแรด การต่อรองผลประโยชน์มากกว่าการดำเนินนโยบายที่ไม่มีแม้แต่ประชาชนในสมการ ซึ่งห่างพ้นไปจากการเมืองในอุดมคติที่พวกเขาใช้การเลือกตั้ง

2 ผู้กำกับ ‘เอก’ เอกพงษ์ สราญเศรษฐ์ และ ‘สนุ๊ก’ ธนกฤต ดวงมณีพร

ความอ่อนหัดทางการเมืองของพรรคน้องใหม่ กลายมาเป็นมรสุมของพรรคอนาคตใหม่ กฎของการเล่นเกมเริ่มทิ่มแทงพวกเขาอย่างต่อเนื่องจากข้อกล่าวหากรณีถือหุ้นสื่อ และเงินบริจาคของธนาธรเอง จนในที่สุดนำไปสู่การยุบพรรคอนาคตใหม่ แต่ภารกิจทางการเมืองของพวกเขายังไม่จบสิ้น เว้นแต่วันที่วงจรอุบาทว์นั้นได้สิ้นสุดหายขาดไปจากการเมืองไทยแล้ว

เก็บทุกอารมณ์ เตือนความทรงจำที่บีบคั้น

Breaking The Cycle ใช้เวลาในการผลิตทั้งสิ้น 6 ปีเต็ม แต่เป็นภาพยนตร์ที่ดูง่าย เข้าใจง่าย ตรงไปตรงมา เล่นกับอารมณ์ของผู้คน ทั้งความหวัง ความเป็นจริง และความผิดหวัง ในทุกย่างก้าวของอดีตพรรคอนาคตใหม่ 

ทุกซีนยํ้าเตือนความทรงจำทางการเมืองไทยในห้วงทศวรรษที่ผ่านเลยมาอย่างรวดเร็ว แต่ทำให้เราได้หวนคิดถึงวันนั้นที่คืบคลานไปอย่างช้าๆ แต่บีบคั้นผู้คนในสังคม ความหวังที่เราเคยหวังมันเป็นแบบไหน ความฝันที่เราเคยฝันมันเป็นเช่นไร ที่ถูกบีบอัดจนแตกสลายจากการเมืองแบบเก่า ด้วยการเมืองที่จุดประกายความหวังแบบอนาคตใหม่นี้ ดึงหลายคนที่ออกจากวงโคจรทางการเมืองกลับเข้ามาสนใจการเมืองอีกครั้งได้อย่างไร 

ไลน์การเล่าเรื่องนี้จากอดีตจนถึงวันที่พรรคอนาคตใหม่ถูกยุบ เตือนให้เราที่ชมได้ย้อนระลึกว่าตอนนั้นเราอยู่ตรงไหนของสังคมการเมือง และตอนนั้นเรารู้สึกเช่นไรต่อความเป็นไปทางการเมือง เมื่อได้ย้อนกลับมาดูในภาพยนตร์สารคดีเรื่องนี้อีกครั้ง  

ปากคำสัมภาษณ์เชิงลึกของแกนนำอดีตพรรคอนาคตใหม่ เป็นการสะท้อนสิ่งที่พวกเขาคิดต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจนนาทีสุดท้าย ที่การเมืองไทยยังคงเดินวนลูปมาจนถึงปัจจุบัน อันล้วนเกิดจากผลพวงรัฐประหารและการวางกติกาบิดเบี้ยวโจ๋งครึ่ม เพื่อไม่ให้การรัฐประหาร 2557 เสียเปล่าเหมือนการรัฐประหาร 2549 

ผู้กำกับได้ดึงอาจารย์รัฐศาสตร์เข้ามาอธิบายขยายความ การกำเนิดอนาคตใหม่ในช่วงเปลี่ยนผ่านทางการเมืองและพวกเขาคือ ‘ไอพอด’ ทางการเมือง สิ่งที่กํ้ากึ่งระหว่างเก่าและใหม่ที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีขึ้น

แม้พรรคอนาคตใหม่ได้ถูกยุบไปแล้ว แต่ภารกิจทางการเมืองของพวกเขายังไม่จบสิ้นลง ตราบใดที่ประเทศไทยยังคงเหมือนเดิม พวกเขายังได้มองภาพของตนเองในวันที่พวกเขาวางมือทางการเมือง พร้อมกับกลับไปใช้ชีวิตตามปกติอยู่กับบ้านและครอบครัวเหมือนคนธรรมดาสามัญทั่วไปโดยไม่ได้ยึดติดกับอำนาจ แต่สำหรับธนาธรแล้ว ปี 2570 คือปีที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาที่เราต้องติดตามกันต่อ แม้หนังจะจบไปแล้ว แต่คนยังไม่จบ…

Author

ณัฏฐชัย ตันติราพันธ์
อดีตผู้สื่อข่าวต่างประเทศ อดีต น.ศ. ป.โท ในประเทศอีเกียที่เรียนไม่จบ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า