ภาพ: อนุชิต นิ่มตลุง
ว่ากันตามจริตของคนในโลกสมัยใหม่ หากได้ยินว่าโลกนี้เขามี ‘เทศกาลแห่จู๋’ หรือ ‘Festival of the Steel Phallus’ เราอาจแก้มแดง แต่มือก็รีบกดกูเกิลแอบค้นดู และหากรู้ว่าสาแหรกของพิธีกรรมนี้มีจริงและจัดขึ้นทุกปีในช่วงบ่ายๆ วันอาทิตย์แรกของเดือนเมษายน ที่เมืองคาวะซะกิ จังหวัดคานะงะวะ ประเทศญี่ปุ่น เราอาจเอามือทาบอกและร้องด้วยน้ำเสียงเสียจริตได้ประมาณว่า #ขุ่นพระ
พูดเล่นๆ ไปอย่างนั้นเองนะคะ ^^
อย่างที่ได้เกริ่นไป ‘Festival of the Steel Phallus’ หรือชื่อจริงๆ ว่า Kanamara Matsuri คือพิธีกรรมแห่จู๋ หรือเราอาจคุ้นหูในคำว่า ‘ปลัดขิก’ คือส่วนหนึ่งในศาสนพิธีของศาสนาชินโต นับย้อนไปได้ตั้งแต่สมัยเอโดะหรือราวปี 1600
กว่าจะเป็น Kanamara Matsuri
ว่ากันว่าในราวๆ ยุคเอโดะ โสเภณีเป็นอาชีพที่คนยอมรับกันทั่วไปโดยไม่ถือเป็นเรื่องผิดบาป ปัญหาคือในสมัยนั้นยังไม่มีความรู้ทางการแพทย์ การป้องกันโรคติดต่อจากเพศสัมพันธ์ (ทั้งเอดส์และซิฟิลิส) บรรดาเกอิชาจึงมักเดินทางมาที่ศาลคะนะมาระ เพื่อขอพรให้พ้นจากเภทภัย นอกจากนั้น ศาลคะนะมาระยังเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่หนุ่มสาวมักมาขอพรในเรื่องความรัก ครอบครัว และความโชคดีปลอดภัยของบุตรธิดาอีกด้วย
ขณะที่เรื่องเล่าอีกชุดหนึ่งมีว่า มีหญิงสาวคนหนึ่งต้องคำสาปจากปีศาจตนหนึ่งที่หลงรักเธอ จึงได้เข้าไปสิงอยู่ในช่องคลอดของผู้หญิงคนนั้น ที่เรียกกันว่า ‘vagina dentata’ หรือ ‘ช่องคลอดที่มีฟัน’ เมื่อเธอได้รักกับผู้ชายของเธอในคืนแต่งงาน เขาจึงโดนปีศาจตนนั้นกัดกินจนตายในที่สุด
เธอจึงไปขอความช่วยเหลือจากช่างตีเหล็กคนหนึ่ง เพื่อให้ทำปลัดขิกจากเหล็กให้ และหลอกล่อให้ปีศาจตนนี้ออกมาอาละวาดอีกครั้ง กัดกินปลัดขิกจนฟันของปีศาจหักร่วงหมด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เทศกาลนี้จึงถือเป็นการคารวะต่อชายตีเหล็กผู้นั้นอีกทางหนึ่งด้วย
แม้ชื่อของเทศกาลจะฟังแล้วชวนให้เขินอาย และตำนานของเรื่องก็ดูลึกลับและมีความหมาย แต่เทศกาลนี้เป็นที่รับรู้กันว่าเป็นขบวนพาเหรดที่ออกจะแฟนตาซี ความสนุกอยู่ที่เครื่องแต่งกายของผู้ที่มาร่วมงาน ตั้งแต่หมวกจู๋ เสื้อจู๋ ไอติมจู๋ ไปจนกระทั่งเทียนจู๋ ทั้งหมดถูกรังสรรค์ขึ้นด้วยรูปลักษณ์แห่ง ‘จี๊ปุ่น’ เต็มๆ
นี่ไม่ใช่เทศกาลของวัยรุ่น เพื่อวัยรุ่นและนักท่องเที่ยวเพียงประการเดียว เพราะคุณจะได้เห็นคนที่มีอายุมากๆ แต่งตัวน่ารักบ้างกระทั่งฉูดฉาด อยู่ร่วมเคียงบ่าเคียงไหล่กับวัยรุ่นญี่ปุ่นอย่างไม่ขัดสายตาเลย
อ้างอิงข้อมูลจาก: huffingtonpost.ca
everfest.com