ทุกวิกฤติมีทางออก ประยุทธ์บอกสวดมนต์ช่วยได้…นะจ๊ะ

หนึ่งในวิธีแก้ปัญหาที่อยู่ในมันสมองของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรัฐประหารคือ การสวดมนต์ภาวนาตามแบบฉบับของชาวพุทโธเลียน บนพื้นฐานที่มาจากความเชื่อล้วนๆ ว่า การสวดมนต์จะช่วยปัดเป่าสัพพะทุกข์ สัพพะโศก สัพพะโรค สัพพะภัย สัพพะเคราะห์ เสนียดจัญไร สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ 

นี่ไม่ใช่การกล่าวหาอย่างเลื่อนลอย แต่ปรากฏหลักฐานที่ประยุทธ์เคยแสดงวิสัยทัศน์ผู้นำต่อหน้าธารกำนัลหลายครั้งหลายครา ดังที่เคยกล่าวไว้ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ที่ผ่านมาว่า “ผมสวดมนต์ทุกวัน ฉะนั้นจะไม่ทำอะไรที่มันผิด” 

กระทั่งสถานการณ์ล่าสุดที่หลายพื้นที่ในประเทศไทยกำลังเผชิญวิกฤติอุทกภัยอย่างแสนสาหัส ประยุทธ์ก็เสนอทางออกด้วยการเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนช่วยกันสวดมนต์ภาวนาอ้อนวอนเทพยดาให้ช่วยขับไล่พายุอย่าให้พัดผ่านเข้ามาซ้ำเติมคนไทย

ด้วยแนวคิดอันชาญฉลาดของผู้นำประเทศเช่นนี้ WAY จึงขอสืบสาวเท้าความไปยังเรื่องราวแต่หนหลัง ว่ากี่ครั้งกี่หนแล้วที่นายกรัฐมนตรีของไทยผู้นี้นำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤติด้วยการหันหลังให้ปัญหา – หันหน้าเข้าหาธรรมะ

สู้ภัยธรรมชาติด้วยการสื่อสารทวยเทพ

14 กรกฎาคม 2558

เมื่อเผชิญกับวิกฤติครั้งใหญ่ๆ อย่างภัยธรรมชาติ วิสัยทัศน์อันเบิกโพลงของประยุทธ์อันดับแรกคือการสวดมนต์ ดังเช่นในปี 2558 ประชาชนประสบกับปัญหาภัยแล้งอย่างหนัก จนกระทั่งเมื่อคืนวันที่ 14 กรกฎาคม 2558 เกิดฝนตกหนักหลายพื้นที่ รุ่งขึ้น พลเอกประยุทธ์ตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเบิกบานใจ โดยเผยกับผู้สื่อข่าวว่าตนเองรู้สึกดีใจเพราะได้สวดมนต์ขอพรพระพิรุณ อีกทั้งยังแสดงวิสัยทัศน์ในการแก้ปัญหาด้วยการวางแผนส่งกำลังทหารไปขุดลอกคูคลอง และแผนการเตรียมพื้นที่ปลูกพืชว่าตรงไหนควรปลูกอะไร เพื่อลดต้นทุนการผลิตและสร้างธุรกิจชุมชนให้เกษตรกรมีรายได้

“ก็ดีใจ เมื่อคืนก็สวดมนต์ขอพระพิรุณ ขอให้ทุกคน ขอให้ประเทศชาติปลอดภัย ประเทศชาติสงบสุข ขอให้สื่อน่ารัก ขอให้ที่เอ่ยทั้งหมดน่ะ ขอทุกวัน ไม่ได้พูดเล่น”

10 มกราคม 2562

เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2562 ภายในงาน ‘มหกรรมการแสดงผลการดำเนินงานโครงการตามแนวทางประชารัฐของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง’ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้กล่าวแสดงความห่วงใยต่อประเทศชาติและขอให้คนไทยรักและหวงแหนประเทศชาติด้วย โดยชี้ว่า ประเทศไทยเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ แม้กระทั่งพายุปาบึกก็สลายไปเอง เพราะตนสวดมนต์ขอพรพระสยามเทวาธิราชทุกวัน จึงไม่รุนแรงเท่าประเทศอื่นๆ 

“ดินแดนนี้เป็นดินแดนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ คิดง่ายๆ ให้รู้สึกดี ภูมิใจในความเป็นชาติ แม้กระทั่งพายุปาบึก มีความเสียหายน้อยที่สุดอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะเขาค่อยสลายไปเอง ผมสวดมนต์ทุกวัน ขอพระสยามเทวาธิราช ไม่เช่นนั้นจะทวีความรุนแรงขึ้น ทุกประเทศที่โดน เดี้ยงหมด ก็แปลกดี ที่ของเราค่อยๆ ม้วนหาง แต่ก็ยังมีคนเดือดร้อนเสียชีวิต ไม่ใช่เรื่องที่เราจะปล่อยปละละเลย ก็ทำเต็มที่ สิ่งเหล่านี้เป็นพลังเดินหน้าประเทศไปข้างหน้า ผมทำคนเดียวไม่ได้”

19 สิงหาคม 2562 

เมื่อครั้งที่พลเอกประยุทธ์เดินทางไปตรวจราชการเพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้งที่จังหวัดบุรีรัมย์ โดยได้ตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำ เยี่ยมชมบูธผลิตภัณฑ์ข้าวอินทรีย์ และขึ้นหอดูนก ส่องนกกระเรียน เมื่อได้พบปะกับประชาชนที่มารอต้อนรับก็ได้กล่าวถ้อยคำที่เปี่ยมด้วยความหวังและกำลังใจให้แก่พี่น้องประชาชนว่า ตนสวดมนต์ภาวนาขอให้ฝนตกอยู่ แต่ฝนกลับไปตกในที่น้ำท่วม พร้อมถามว่ามีใครอยากให้ตนลาออกหรือไม่ แต่ยืนยันว่าไม่ออกแน่นอน และเปรียบตนเองเป็นกระท้อน ยิ่งทุบตียิ่งอร่อย ตนพยายามแก้ปัญหาทุกอย่างอย่างเต็มที่แล้ว แต่ต้องพิจารณาระเบียบและขั้นตอนต่างๆ ด้วย

26 กันยายน 2564

ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2564 ประยุทธ์และคณะได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสุโขทัย โดยได้กล่าวทักทายให้กำลังใจ มอบถุงยังชีพ และแนะนำให้ประชาชนปลูกบ้านสองชั้นหรือย้ายไปอยู่ที่สูง อีกทั้งยังเสนอให้ประชาชนช่วยกันสวดมนต์ ขออย่าให้มีพายุเข้ามาอีก หากตั้งใจฟังที่รัฐบาลพูดสถานการณ์น่าจะดีขึ้น

“วันนี้พายุเข้ามาลูกหนึ่ง ปีก่อนปี 63 เข้า 5 ลูก นี่ลูกเดียว สวดมนต์อย่าให้มาอีกเลย มาลูกเดียวก็พอแล้ว เราอาจจำเป็นจะต้องคิดใหม่ว่า เราจะอยู่กันต่อไปอย่างไรในวันหน้า”

คาถาป้องกันเหตุร้าย ขับไล่โรคระบาด

25 มิถุนายน 2561

นอกเหนือจากการแก้ปัญหาภัยธรรมชาติแล้ว พลเอกประยุทธ์ยังอาศัยการสวดมนต์เพื่อให้คุ้มครองประชาชนจากอุบัติเหตุต่างๆ เช่น เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2561 ประยุทธ์เผยว่า ได้ติดตามข่าวเหตุการณ์ทีมฟุตบอลเยาวชนหมูป่าอะคาเดมีและครูฝึกจำนวน 13 คน ที่ติดอยู่ในถ้ำหลวง อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย จึงแก้ปัญหาโดยการสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าไปช่วยเหลือ และได้สวดมนต์อธิษฐานขอให้ปลอดภัย อีกทั้งยังกำชับให้ประชาชนระมัดระวังและติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก

“ผมได้ติดตามข่าวสารตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้ ก็ได้กำชับให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปดูแล เข้าไปค้นหาช่วยเหลือให้ได้ ผมก็ส่งกำลังใจให้ และกำชับไปตลอด หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกคนจะปลอดภัย ผมก็เลยสวดมนต์อธิษฐานขอให้เขาปลอดภัย”

26 ธันวาคม 2562 

ประยุทธ์เข้าร่วมเป็นประธานเปิดงานโครงการ ‘ปีใหม่ปลอดภัยเมาไม่ขับ’ โดยกล่าวถึงมาตรการป้องกันอุบัติเหตุว่า ต้องแก้ไขด้วยการเริ่มที่จิตสำนึก ขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือเมาไม่ขับ ตนรักและเป็นห่วงคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะมีการสูญเสียกี่คนตนก็เสียใจ และในช่วงปีใหม่ตนก็ไม่ได้เดินทางไปที่ใด เพราะต้องคอยติดตามผลและสวดมนต์ขอให้ทุกคนปลอดภัย

14 พฤษภาคม 2564

ประยุทธ์และชาวคณะ ตรวจเยี่ยมการทดลองระบบฉีดวัคซีนที่จุดฉีดวัคซีน ณ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์บางกะปิ โดยสอบถามผู้ที่มารอรับการฉีดวัคซีนว่ามาฉีดจริงหรือไม่ ขออย่ากังวล ทำใจให้สบาย หากกังวลให้สวดมนต์ การฉีดวัคซีนไม่มีอะไรน่ากลัว ขอให้ประชาสัมพันธ์เชิญชวนกันมาฉีดวัคซีนด้วย ส่วนนโยบายการจัดหาวัคซีน พลเอกประยุทธ์ระบุว่า ไม่ได้มีการปิดกั้นการจัดหาวัคซีน ไม่เคยกล่าวโทษประชาชน ขอความร่วมมือให้ทุกคนปฏิบัติตามมาตรการด้านสาธารณสุขเพื่อป้องกันดูแลตนเองด้วย

อย่างไรก็ตาม พลเอกประยุทธ์ก็ไม่ได้แนะนำให้ประชาชนใช้การสวดมนต์เพื่อแก้ปัญหาทุกเรื่อง เช่น ปัญหาฝุ่น PM2.5 เมื่อปี 2562 เนื่องจากมีกระแสการสวดมนต์ไล่ฝุ่นตามนายกฯ บนอินเทอร์เน็ต พลเอกประยุทธ์จึงกล่าวในพิธีงานวันครูที่คุรุสภา เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2562 ว่า ไม่ใช่ว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไร ทุกคนต้องรู้จักป้องกันตนเอง ต้องช่วยกันแก้ไข โดยสั่งให้ลดการใช้น้ำมันดีเซลแล้วช่วยกันไปเติมดีเซลบี 20 แทน จะได้ช่วยแก้ปัญหาราคาน้ำมันปาล์มได้อีก ไม่ใช่กล่าวหาว่ารัฐบาลไม่ได้ทำอะไรเลยแล้วเอาแต่สวดมนต์ 

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2562 ได้แถลงผลการดำเนินงานของรัฐบาลที่ทำเนียบรัฐบาล โดยมีตอนหนึ่งกล่าวถึงปัญหาฝุ่นละอองว่า

“รัฐบาลต้องคิดอย่างรอบคอบ รัฐบาลขอความร่วมมือไม่ได้โทษประชาชน แต่ต้องทำไม่ให้เดือดร้อน ไม่มีสวดมนต์ แล้วเธอไม่เคยสวดมนต์หรือ ให้บ้านเมืองสงบสุข ประชาชนมีความสุข ปลอดภัย การเมืองเดินหน้าไปได้มีเสถียรภาพ หรือเคยแต่สวดมนต์ให้ตัวเองอย่างเดียว” พลเอกประยุทธ์ผู้สวดมนต์ทุกคืนก่อนนอน กล่าวอย่างมีอารมณ์

ที่มา

Author

ชัญญา อินทร์ไชยา
ชื่อเล่นญี่ปุ่น แต่เลือดอีสานแท้ เว่าลาวได้นิดหน่อย แมวคือสิ่งมีชีวิตที่ทำให้มีความสุข อาหารอร่อยและการ์ตูนสักเรื่องคือเครื่องหล่อเลี้ยงจิตใจ นิยามตัวเองเป็นเป็ดเพราะการเรียนรู้ไม่เคยสิ้นสุด

Illustrator

บัว คำดี
จากนักเรียนสายหนังผันตัวมาทำกราฟิกดีไซน์และงานโมชั่น แม่นยำเรื่องจังหวะเวลาแม้กระทั่งการเคี้ยวข้าวทีละคำด้วยความเร็วสม่ำเสมอจนหมดเวลาพักเที่ยง ฝากลายเส้นไว้ในชิ้นงานแนวรักเด็ก รักโลก ละมุนละไม แต่อีกด้านที่ทำให้กองบรรณาธิการต่างเกรงกลัวไม่กล้าแบทเทิลด้วย คือความเอาจริงเอาจังกับตารางเวลา ตรงไปตรงมา ลงจังหวะเน้นเป๊ะตามบาร์แบบชาวฮิพฮอพ

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • Always Active

บันทึกการตั้งค่า