2 ปีก่อน กลุ่มราษฎรนัดรวมตัวบริเวณสามย่าน ก่อนเคลื่อนตัวไปตามถนนพระราม 4 มุ่งหน้าสู่ถนนสาทรใต้ จากนั้นหัวขบวนหยุดบริเวณสถานทูตเยอรมัน
ในวันนั้น มายด์-ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล ไผ่-จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา และ วรินท์ แพททริค แม็คเบลน 3 แกนนำ ยื่นแถลงการณ์ต่อเอกอัครราชทูตเยอรมนี ประจำประเทศไทย นับเป็นการดันเพดานข้อเรียกร้องปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ไทยอย่างถึงแก่น
วานนี้ (26 ตุลาคม) หรือ 2 ปี นับจากการชุมนุมที่สถานทูตเยอรมัน แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย และโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (iLAW) เปิดตัวหนังสือภาพ There’s Always Spring – เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน ร่วมเขียนโดยอาสาสมัครสังเกตการณ์การชุมนุม ภายใต้โครงการ ‘Mob Data Thailand’
ไม่เพียงม็อบคณะราษฎร แต่ทีมสังเกตการณ์หรือ ‘observer’ ยังได้บันทึกข้อมูลและถ่ายภาพของม็อบต่างๆ ที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2564 จำนวน 1,516 ครั้ง ใน 70 จังหวัดทั่วประเทศ (ข้อมูลวันที่ 27 ตุลาคม 2565) ทั้งม็อบใหญ่และม็อบเล็ก ทั้งขั้วการเมืองฝ่ายประชาชนและขั้วการเมืองฝ่ายตรงข้าม ข้อมูลเหล่านี้ได้ถูกรวบรวมมาจัดแสดงผ่านเว็บไซต์ mobdatathailand.org กระทั่งคณะทำงานฯ เห็นว่ามีข้อมูลที่น่าสนใจมากพอแล้ว จึงหยิบเหตุการณ์เหล่านั้นบางส่วนมาตีพิมพ์ในรูปแบบ ‘หนังสือภาพ’ ขนาดกะทัดรัด เปรียบเสมือนหลักฐานลายลักษณ์อักษรของประวัติศาสตร์ร่วมสมัยอันร้อนฉ่าของสังคมไทย
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9125.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9126.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9127.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9128.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9132.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9136.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9137.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9146.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9150.jpg)
“เราไม่ได้เก็บเฉพาะข้อมูลประเภท ใครทำอะไร ที่ไหน หรือเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นบ้าง แต่เรายังเก็บตัวอย่างน้ำที่ใช้สลายการชุมนุมว่า มีสารประเภทใดเป็นส่วนประกอบบ้าง” อาสาสมัครคนหนึ่งเล่าถึงการทำงานของทีมอาสาสมัครสังเกตการณ์
“ขณะสังเกตการณ์ม็อบ เราถ่ายรูปติดน้องมัธยมคนหนึ่ง น้องยังสะกิดเราว่า พี่ถ่ายเด็กไม่ได้นะ มันผิดกฎหมาย เราก็โอเค สิ่งนี้บอกเราว่า เด็กรุ่นใหม่เขาตื่นตัวเรื่องสิทธิกันจริงๆ” อาสาสมัครอีกท่านแลกเปลี่ยนประสบการณ์
ภายใต้ข้อสังเกตที่ว่า “ม็อบราษฎรตายแล้วหรือไม่” คำตอบบางรูปแบบสัมพันธ์กับจำนวนการชุมนุมที่ลดลง ขณะที่บางคำตอบอาจอยู่ในหนังสือเล่มนี้ เพราะมันคือ ข้อพิสูจน์ชั้นดีว่า ครั้งหนึ่ง (และยังคง) มวลชนมีพลังทางสังคมมากพอจนสั่นคลอนโครงสร้างศักดิ์สิทธิ์ และมีพลังมากพอจนทำให้เผด็จการอยู่ไม่สุข
กระนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่า หากเทียบปี 2563 กับปีปัจจุบัน ความคึกคักทั้งในเชิงปริมาณและมวลอารมณ์ของม็อบขาดหายไปพอสมควร
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9240.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9249.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9285.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9221.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9219.jpg)
ลูกเกด-ชลธิชา แจ้งเร็ว ชี้ว่า ปัจจัยหนึ่งที่ทำให้การเคลื่อนไหวในปี 2565 ดูอ่อนแรงลง คือการถูกดำเนินคดีความต่อผู้ชุมนุมขนานใหญ่ และ การใช้ ‘กำไล EM’ เป็นเงื่อนไขประกันตัวของผู้ต้องหาในคดีทางการเมือง ซึ่งนับเป็นอุปสรรคในการดำเนินชีวิตอย่างมาก “ถึงแม้ว่าจะไม่มีการชุมนุม แต่รูปแบบการเคลื่อนไหวทางการเมืองเปลี่ยนไปแล้ว เรามีโอกาสเดินสายไปเลคเชอร์ให้น้องๆ ในคลาสเรียน ความคิดทางการเมืองเขาเปลี่ยน เขาตั้งคำถามต่อสถาบันกษัตริย์ที่ไปไกลกว่าเส้นที่เราเรียกร้องตอนปี 63-64 สำหรับรัฐ มันน่ากลัวนะ ถ้าไม่มีการชุมนุมบนท้องถนน แต่รูปแบบความคิดและอุดมการณ์ทางการเมืองถูกขยายด้วยวิธีการอื่น”
“ตั้งแต่ปี 63 ถึง 64 เพดานถูกผลักจนทุกคนควานหาคำตอบด้วยตัวเองแล้ว อาวุธทางความคิดที่เราเปิดประเด็นไป มันฝังอยู่ในตัวของมวลชนแล้ว” มายด์-ภัสราวลี แสดงทัศนะต่อโมงยามปัจจุบัน “หลายคนอาจมองว่า ปี 65 ไม่มีม็อบเลย แต่มายด์กลับมองว่า มันแสดงออกมาในรูปแบบอื่นๆ มากกว่า อย่างกรณี ‘6 ตุลา’ ครบรอบ ‘ปี 53’ หรือกระทั่งเหตุการณ์ตากใบ ก็มีการจัดกิจกรรมเยอะมากๆ นั่นหมายความว่าประชาชนตื่นตัวทางการเมืองมากขึ้น”
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9261.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9287.jpg)
ขณะที่ อานนท์ นำภา เสริมประเด็นนี้ว่า “ผมคิดว่าทุกคนกำลังตกผลึกและสั่งสมอารมณ์ เพื่อที่จะปลดปล่อยออกมาอีกครั้งหนึ่ง ผมกล้าพูดนะว่า ม็อบที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่ปี 63 ไม่ใช่ปี 64 แต่จะเป็นปี 66 หรือ 67 ก็ได้” อานนท์เปรียบเทียบพลังประชาชนกับ ‘ดาว’ ที่ยังดำรงอยู่เสมอ แม้เราจะมองไม่เห็นหรือกระทั่งไม่ใส่ใจมองมันในเวลากลางวัน แต่ยามกลางคืนดาวก็จะปรากฏสว่างชัดอีกครั้ง พร้อมทิ้งท้ายว่า “ฝั่งประชาธิปไตยไม่มีวันเปลี่ยนไปเป็นเผด็จการแน่นอน”
“ทุกคนคือมนุษย์ คนที่ต่อสู้ เหนื่อยก็พัก ผิดหวังก็กลับไปสร้างความหวังใหม่ วันนี้มันยังมีคนสู้อยู่ ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้น โอเค มันอาจน้อยลงในเชิงปริมาณ แต่ตราบใดที่ยังมีความอยุติธรรมอยู่ มันก็จะมีคนออกมาร่วมต่อสู้ ออกมาหาเพื่อน และหาแนวร่วมในการเปลี่ยนแปลงอยู่ดี” ไผ่-จตุภัทร์ กล่าวต่อไปว่า “มันยังมีคนไปต่อ เราอาจไม่ได้ยืนอยู่บนเวทีปราศรัย แต่เรายังสู้ในบทบาทอื่น… จังหวะนี้ ทุกคนกำลังพัก เก็บแรง สั่งสมประสบการณ์ ศึกษาประวัติศาสตร์ และพยายามคิดเครื่องมือต่อสู้รูปแบบใหม่ๆ”
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9296.jpg)
“ถ้าเห็นสถานการณ์หลายๆ อย่างในประเทศ สถาบันบ้านเรามันพังไปหมดแล้ว เหลือเพียงสถาบันเดียวที่ยังมีความหวังก็คือ สถาบันของประชาชน เพราะฉะนั้น รอให้ทุกคนมีแรงกลับมา ทุกคนเป็นเจ้าของความหวังอยู่แล้ว ประเทศนี้เป็นของทุกคน” ไผ่ทิ้งท้าย
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9353.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9358.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9347.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9338.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9335-1.jpg)
ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวและนักกิจกรรมมากหน้าหลายตาได้เข้าร่วมงานเปิดตัวหนังสือ There’s Always Spring – เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน อาทิ เอกชัย หงส์กังวาน, อั๋ว-จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์, อาเล็ก-โชคดี ร่มพฤกษ์ รวมถึงยังมีประชาชนท่านอื่นๆ ที่สนใจเหตุการณ์ทางการเมืองเข้าร่วม ทำให้บรรยากาศงานเปิดตัวหนังสือครั้งนี้อบอุ่นชื่นมื่น นอกจากวงเสวนาถึงเหตุการณ์การชุมนุมที่ผ่านมาแล้ว พื้นที่ห้องโถงของ กาลิเลโอเอซิส (GalileOasis) ได้ถูกเปลี่ยนเป็นนิทรรศการจัดแสดงสิ่งของที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวตั้งแต่ปี 2563 เช่น ป้ายประท้วง ปลอกกระสุนยาง กระป๋องแก๊สน้ำตา และเป็ดเหลือง ซึ่งสะท้อนทั้งความ ‘ออร์แกนิก’ ของม็อบ และความ ‘รุนแรง’ ของรัฐ
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9419.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9406.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9405.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9391.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9401.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9409.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9383.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9362.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9312.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9313.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9322.jpg)
![](https://waymagazine.org/wp-content/uploads/2018/09/IMG_9319.jpg)
และพระเอกของงานคือ หนังสือ There’s Always Spring – เมื่อถึงเวลาดอกไม้จะบาน ได้บรรจุเหตุการณ์การต่อสู้และแสดงออกทางการเมืองของประชาชนเอาไว้ตั้งแต่ม็อบ ‘วิ่งไล่ลุง’ ปี 2562 เรื่อยมาจนถึงการต่อสู้ที่อาจจะดูเงียบในปี 2565 แต่กลับปรากฏผ่านตัวเลขความเสียหาย การบาดเจ็บ และการเสียชีวิตจากการสลายการชุมนุมอย่างรุนแรงโดยเจ้าหน้าที่รัฐ ตลอดจนจำนวนผู้ถูกดำเนินคดีอีกหลายชีวิต
‘พระเอก’ คนนี้ก็เล่าเรื่องราวผ่านภาพถ่ายเป็นหลัก ซึ่งเปรียบเสมือนเครื่องย้ำเตือนความทรงจำที่ควรค่าแก่การเก็บรักษาสำหรับผู้เคยผ่านประสบการณ์ร่วมกับม็อบ และยังเปรียบเสมือนหนังสือบันทึกประวัติศาสตร์ร่วมสมัยที่จะช่วยเสริมสร้างความเข้าใจให้คนในอีกไม่กี่สิบปีข้างหน้าจำได้ว่า ต้นทศวรรษ 2560 เกิดอะไรขึ้นบ้างในภูมิทัศน์การเมืองไทย